5 เทคนิคเก็บเงินแต่งงานให้สำเร็จภายใน 1 ปี!!
หากนึกถึงวันสำคัญในชีวิตคู่ของใครหลายคน อาจนึกถึงวันแต่งงานกัน โดยเฉพาะคู่รักที่กำลังมีข่าวดีเพิ่งผ่านการขอแต่งงานกันไปไม่นาน ซึ่งเป็นข้อตกลงการแต่งงานร่วมกัน ดังนั้นหากคู่ไหนมีแพลนอยากจัดงานแต่งงานในฝัน โดยใช้เงินก้อนจากการเก็บของทั้งคู่ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 เทคนิค เก็บเงินแต่งงาน ให้สำเร็จแบบง่าย ๆ ได้ภายใน 1 ปี ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้ตามสมควรเลย
1. คำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อกำหนดงบเก็บเงินแต่งงาน
สำหรับคู่รักที่มีแพลนอยากเก็บเงินแต่งงาน สิ่งสำคัญแรกคือการที่ทั้งคู่ได้ร่วมกันทำข้อตกลงและข้อสรุปในงานแต่งร่วมกัน เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขตค่าใช้จ่ายในงานแต่งได้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ควรรู้ เช่น ค่าเช่าสถานที่สำหรับจัดงาน ค่าชุดแต่งงาน ค่าอาหาร ค่าแต่งหน้าทำผม ค่าพรีเวดดิ้ง ค่าช่างภาพ และค่าของชำร่วย เป็นต้น
2. ปิดหนี้ให้เร็วที่สุด
หลังจากที่รู้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องมีไว้เรียบร้อยแล้ว อีกเทคนิคเก็บเงินแต่งงาน คือการตรวจหนี้ของทั้งคู่ โดยหากอยากเก็บให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ควรวางแผนปิดหนี้ให้หมดเร็วที่สุด โดยอาจเริ่มต้นจากหนี้ที่มีเงินต้นหรือดอกเบี้ยสูง ๆ ก่อน เพื่อให้มีเงินเก็บได้มากขึ้น
3. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
อีกหนึ่งทริคที่ทำได้ง่าย แต่ได้ผลดี นั่นก็คือการลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นในช่วงเวลา 1 ปี เพื่อนำเงินส่วนนั้นมาเป็นเงินเก็บเพื่อใช้จ่ายในงานแต่ง ซึ่งหากเข้าใจง่าย ๆ นั่นก็คือการประหยัดอดออมนั่นเอง โดยแต่ละคู่ต้องทำการตกลงและมีความตั้งใจในการเก็บออมร่วมกัน
4. เปิดบัญชีร่วมกัน
อยากเก็บเงินแต่งงานให้ได้เร็ว ๆ ต้องมาใช้เทคนิคนี้เลย การเปิดบัญชีร่วมกัน โดยทั้งคู่อาจต้องทำการกำหนดจำนวนเงินเก็บออม โดยมีเป้าหมายเป็นยอดค่าใช้จ่ายสำหรับจัดงานแต่งที่ได้คุยกันไว้ในข้อแรก นำมาเป็นตัวตั้ง แต่ทั้งคู่จะร่วมเก็บในจำนวนเท่า ๆ หรืออาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคู่
5. วางแผนเก็บเงินในหลาย ๆ ทาง
มาถึงเทคนิคเก็บเงินแต่งงานให้ได้ไว ๆ และสำเร็จตามเป้าที่กำหนดได้ภายในนึ่งปี นั่นก็คือการขยายช่องทางการหารายได้ โดยอาจเพิ่มเป็นรูปแบบอาชีพเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ กาออมเงินในวิธีต่าง ๆ ที่ได้ผลตอบแทนดี รับรองว่ายังไงก็ถึงเป้าหมายได้แน่นอน
เชื่อว่า การจัดงานแต่งงาน เป็นลักษณะงานที่มีรายละเอียดและใช้เงินสูงในจำนวนหนึ่ง แต่หากต้องการประหยัดงบลง อาจเลือกจัดเป็นงานสไตล์มินิมอล ที่มีแขกไม่เยอะ ค่าใช้จ่ายน้อยลง แต่ยังได้รับความอบอุ่นเต็มที่เสมอ
